วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ดอกแวววิเชียร vs ดอกForget me not

     forget me not ไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ แวววิเชียร ขอบอกไว้ก่อนว่าถ้าใครไปถามหา ดอก forget me not แบบสุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว อาจจะต้องตกลงกันให้ดีกับคนขายก่อนว่า เป็นดอก forget me not ในความหมายเดียวกันหรือเปล่า สำหรับดอก forget me not ไทยนั้นคนไทยรู้จักกันในชื่อแวววิเชียรนั้นเป็นพืชเมืองร้อน เราว่ามีลักษณะคล้ายหรือใกล้เคียงกับพวก ลาเวนเดอร์ มากกว่า แล้วสีก็จะมีหลายสีไม่ใช่สีฟ้าครามเหมือนดอก forget me not ของฝรั่งค่ะ

     ใบและดอกของแวววิเชียรมีกลิ่นเฉพาะตัวที่จะติดมือเมื่อสัมผัส แวววิเชียรเป็นพืชที่ปลูกง่ายขึ้นได้ดีในดินทั่วไปแทบ ทุกชนิด ชอบความชุ่มชื้นและทนร่มเงาได้ ทนทานโรคแมลง โตเร็ว ขยายพันธุ์ง่ายโดยการแยกกอหรือปักชำกิ่ง แหล่งกำเนิดดั้งเดิมของแวววิเชียรยังค้นไม่พบ แต่มีหลักฐานว่า นำเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๕๓ โดยแหม่มคอลลินส์ นับถึงตอนนี้ก็มีอายุ ๙๖  ปีแล้ว ครั้งนั้นแวววิเชียรถูกนำเข้ามาจาก เมืองมัณฑะเลย์ สหภาพพม่า เดิมแวววิเชียรมีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า ต้นForget me not เข้าใจว่าเรียกตามแหม่มคอลลินส์  ผู้นำเข้ามาคนแรก

     ความจริงต้น Forget me not ที่รู้จักกันทั่วโลก เป็นพืชในสกุล Myosotis อยู่ในวงศ์ Boraginaceae เป็นพืชเขตอบอุ่น ไม่เกี่ยวข้องกับต้นฟอร์เก็ตมีน็อตของไทยเราเลย จะมีคล้ายกันบ้างก็ตรงที่สีกลีบดอกเป็นสีม่วงเท่านั้นเอง

     เนื่องจากต้น forget me not ของไทยไม่ใช่ Forget me not ของแท้ และยังไม่มีชื่อในภาษาไทย หลวงบุเรศบำรุงการ จึงตั้งชื่อให้ว่าต้นแวววิเชียร ซึ่งเป็นชื่อที่ไพเราะ และมีความหมายดีมาก ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่รู้จักและเรียกชื่อไม้ดอกชนิดนี้ว่าแวววิเชียร แต่ยังมีคนไทยบางกลุ่ม (ที่อายุมากและรู้จักไม้ดอกชนิดนี้มาในชื่อเดิม) ยังนิยมเรียกว่าฟอร์เก็ตมีน็อตอยู่ หากผู้อ่านได้ยินใครเรียกชื่อทั้ง ๒ นี้ก็ขอให้เข้าใจว่าเป็นพืชชนิดเดียวกันนั่นเองค่ะ
ที่มา:http://www.punica.co.th/bbs/viewthread.php?tid=189

                         ดอกforget me not
 
                   ดอกแวววิเชียร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น